จระเข้
จระเข้น้ำจืด เป็นสัตว์ในวงศ์ clocodylidea พบมากในเวียดนาม, กัมพูชา, ลาว ไทย, กาลีมันตัน, ชวา และสุมาตราโดยปกติจระเข้น้ำจืดจะกินปลาและสัตว์อื่นที่เล็กกว่าเป็นอาหาร จะไม่ทำร้ายมนุษย์หากไม่ถูกรบกวนหรือมีอาหารเพียงพอ ในอดีตในประเทศไทยเคยพบชุกชุมในแหล่งน้ำทั่วทุกภาคของประเทศ โดยเฉพาะในแถบที่ราบลุ่มภาคกลาง เช่น ที่บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่จระเข้ชุม เคยมีรายงานว่าพบจระเข้ถึง 200 ตัว หรือในวรรณกรรมพื้นบ้านเรื่องต่าง ๆ เช่น ไกรทอง ของจังหวัดพิจิตร เป็นต้น แต่ปัจจุบันได้สูญหายไปจนหมดแล้ว แต่ในต่างประเทศยังคงพบอยู่เช่นที่ทะเลสาบเขมร ประเทศกัมพูชา โดยเฉพาะทิวเขาพนมกระวาน ซึ่งช่วงแรกค้นพบเพียง 3 ตัว จนนำไปสู่การค้นพบจระเข้นับร้อยตัวที่อาศัยโดยไม่พึ่งพาอาศัยมนุษย์ แต่ที่นี่ก็ประสบปัญหาการจับจระเข้ไปขายฟาร์มจำนวนมาก[2] สถานะในอนุสัญญาของไซเตส ได้ขึ้นบัญชีจระเข้น้ำจืดไว้อยู่ในบัญชีหมายเลข 1
ปัจจุบัน จระเข้สายพันธุ์นี้แท้ ๆ ก็ยังหายากในสถานที่เลี้ยง เนื่องจากถูกผสมสายพันธุ์กับจระเข้สายพันธุ์อื่นจนเสียสายพันธุ์แท้ไปด้วยจากเหตุผลทางด้านเศรษฐกิจ
อนุกรมวิธานของจระเข้น้ำจืด
- Kingdom:Animelia
- Phylum:Chodata
- Class :Rebtilia
- Order:Clocodilia
- Family:Clocodylidea
- Genus :Clocodylus
- Species:C.siamensis
ชื่อวิทยาศาสตร์ Clocodylus siamensis
ลักษณะ : มีความยาว 3 -4 เมตร ตัวผู้มีขนาดเล็กกว่าตัวเมียเล็กน้อย แต่มีหางยาวกว่า จระเข้สยามมีหัวทู่สั้นกว่าจระเข้น้ำเค็มและมีเกล็ดท้ายท้อย 4 เกล็ดเรียงให้เห็นชัด เท้าหลังมีพังผืดเล็กน้อย มีหางแข็งแรง ใช้โบกไปมาเพื่อช่วยในการว่ายน้ำและใช้เป็นอาวุธฟาดใส่คนหรือสัตว์
ถิ่นอาศัย : พบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แถบประเทศกัมพูชา ลาว พม่า มาเลซีย อินโดนีเซีย และประเทศไทย โดยเนื่องจากในสมัยก่อน จระเข้ชนิดนี้พบมากที่สุดบริเวณที่ลุ่มในประเทศไทยหรือที่สมัยนั้นเรียกว่า สยาม จึงได้ชื่อว่า จระเข้สยาม
อุปนิสัย : ชอบอยู่ตามลำพัง บริเวณแหล่งน้ำนิ่งที่ลึกไม่เกิน 5 ฟุต และมีที่ร่ม ในช่วงอากาศร้อนจะแช่น้ำ ถ้าอากาศหนาวจะขึ้นมาผึ่งแดดบนบกในตอนกลางวัน จระเข้น้ำจีดสยามกินสัตว์ขนาดเล็ก และกลาง เช่น ปลา กบ นก รวมทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก
พวกมันผสมพันธุ์ในฤดูหนาว โดยตัวผู้จะต่อสู้กันเพื่อแย่งตัวเมีย การผสมพันธุ์มีปีละครั้ง แม่จระเข้จะขุดหลุมเพื่อใช้ฟักไข่ โดยออกไข่ครั้งละ 20-40 ฟอง หลังจากวางไข่เสร็จแล้ว แม่จระเข้จะกวาดใบไม้รอบ ๆ หลุมมากองบนรังไข่เพื่อป้องกันฝน และเฝ้าระวังจนกว่าลูกจะฟักออกมา โดยครบกำหนดแล้วลูกอ่อน ๆ ก็จะเจาะเปลือกไข่ออกมาเอง จากนั้นตัวแม่จะอยู่ดูแลลูกๆอยู่อีกสองสามสัปดาห์ก่อนจะทิ้งพวกมันไป
ปัจจุบัน จระเข้น้ำจืดสยามตามธรรมชาติมีจำนวนน้อยลง โดยเหลือเพียงไม่กี่ร้อยตัว แต่ได้มีการนำไปเพาะเลี้ยงในฟาร์มเป็นจำนวนมาก ทว่าจระเข้ในฟาร์มส่วนใหญ่ถูกผสมข้ามสายพันธ์จนแทบไม่เหลือสายเลือดแท้ ๆ แล้ว
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น